วิธีการสร้างวิดีโอบทช่วยสอนด้วย Clipchamp

อยากลองสร้างวิดีโอบทช่วยสอนที่น่าสนใจและให้ความรู้ที่ผู้ชมของคุณจะต้องชื่นชอบหรือไม่เมื่อผสมผสานระหว่างการวางแผน การบันทึกวิดีโอ และการตัดต่อวิดีโอเข้าด้วยกันอย่างลงตัว คุณจะสามารถให้ความรู้แก่ผู้ชมได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรือธุรกิจที่ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการก็ตาม

ผู้บริโภคหลายคนใช้วิดีโอบนโซเชียลมีเดียเป็นหลักในการเรียนรู้ ชมการสาธิตผลิตภัณฑ์ ค้นหาคำถามที่พบบ่อยออนไลน์ และแม้แต่ดูวิดีโอรีวิว โดยมี ผู้บริโภคกว่า 66% ที่ดูเนื้อหาวิดีโอก่อนซื้อ จึงไม่น่าแปลกใจที่วิดีโอนั้นเป็นช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

สำรวจทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการสร้างวิดีโอบทช่วยสอนที่มีประสิทธิภาพ และเรียนรู้วิธีการสร้างวิดีโอบทช่วยสอนโดยใช้ เสียงพากย์ AI และเครื่องบันทึกเว็บแคมใน โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Clipchamp

รูปแบบวิดีโอบทช่วยสอนทั้ง 3 แบบที่ต้องลอง

การสร้างวิดีโอบทช่วยสอนสามารถทำได้หลายวิธีการเลือกรูปแบบที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับเนื้อหา ผู้ชม และเป้าหมายของคุณต่อไปนี้เป็นรูปแบบยอดนิยมสามแบบที่ควรพิจารณา โดยแต่ละรูปแบบนั้นมีข้อดีและสถานการณ์ที่ควรนำไปใช้แตกต่างกันไป

บทช่วยสอนแบบบันทึกหน้าจอ

บทช่วยสอนแบบบันทึกหน้าจอเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวิดีโอสาธิตการใช้งาน เช่น การสาธิตซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ หรือกิจกรรมใดๆ บนหน้าจอ โดยจะบันทึกภาพหน้าจอของคุณขณะที่คุณดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมติดตามได้ง่าย ข้อดีคือ:

• ผู้ชมจะเห็นได้ชัดเจนถึงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ ช่วยให้เข้าใจกระบวนการอันซับซ้อนได้ง่ายยิ่งขึ้น

• สามารถสร้างบทช่วยสอนได้โดยการบันทึกหน้าจอของคุณในเวลาจริงรูปแบบนี้ช่วยประหยัดเวลาได้และช่วยให้แน่ใจว่าจะเก็บรายละเอียดได้ทุกประการ

• ความสนใจของผู้ชมจะมุ่งเน้นไปที่งานที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่มีสิ่งรบกวน เอฟเฟกต์ภาพประกอบต่างๆ เช่น ลูกศรเคลื่อนไหวและไฮไลต์เคอร์เซอร์ ช่วยเพิ่มความเข้าใจของผู้ชมได้

กรณีการใช้งานที่ดีที่สุด

• การแนะนำการใช้งานซอฟต์แวร์

• การนําทางเว็บไซต์

• บทเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย

วิดีโอการพูดหน้ากล้อง

วิดีโอการพูดหน้ากล้องจะนำเสนอผู้บรรยายที่กำลังพูดกับกล้องโดยตรงผ่าน การบันทึกเว็บแคมหรือ การซ้อนวิดีโอรูปแบบนี้เหมาะสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ฟังและอธิบายแนวคิดอย่างชัดเจน ข้อดีคือ:

• ผู้ชมจะรู้สึกใกล้ชิดเมื่อได้เห็นคนจริงๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมได้รูปแบบนี้ช่วยทำให้เนื้อหามีความเป็นมนุษย์มากขึ้นและมีความเชื่อมโยงกับผู้อื่นมากขึ้น

• บทช่วยสอนยังสามารถเพิ่มเอฟเฟกต์ภาพประกอบต่างๆ ได้ด้วย เช่น ภาพกราฟิกบนหน้าจอบันทึก องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยแสดงให้เห็นถึงประเด็นต่างๆ ของคุณและดึงดูดผู้ฟังให้สนใจเนื้อหา

• ช่วยให้คุณเป็นแหล่งข้อมูลที่มีความรู้และน่าเชื่อถือการได้เห็นผู้พูดที่มีความมั่นใจช่วยสร้างความไว้วางใจและเพิ่มมูลค่าของเนื้อหาที่รับรู้ได้

กรณีการใช้งานที่ดีที่สุด

• เนื้อหาด้านการศึกษา

• การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ

• วิดีโอพ็อดแคสต์ส่วนตัว

เคล็ดลับในการสร้างการมีส่วนร่วม

• มองตรงไปที่กล้องเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงถึงผู้ฟังการสบตากับกล้องช่วยสร้างความสัมพันธ์กับผู้ฟังของคุณได้

• ใช้มือและท่าทางให้ดูมีชีวิตชีวาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมเอาไว้การเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติช่วยให้การนำเสนอดูมีชีวิตชีวาและน่าดึงดูดมากขึ้น

• รู้ประเด็นสำคัญของตนเองและฝึกพูดเพื่อหลีกเลี่ยงการอ่านจากสคริปต์การเตรียมการนี้ช่วยให้การนำเสนอมีความลื่นไหลและน่าสนใจมากขึ้น

บทช่วยสอนแบบการนำเสนอภาพนิ่งเชิงโต้ตอบ

บทช่วยสอนเชิงโต้ตอบจะดึงดูดผู้ชมให้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน โดยมักจะทำได้ผ่านองค์ประกอบที่คลิกได้ แบบทดสอบ หรือจุดตัดสินใจต่างๆรูปแบบนี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและดึงดูดความสนใจเอาไว้ โดยทำให้กระบวนการเรียนรู้ไม่น่าเบื่อข้อดีคือ:

• ช่วยให้ผู้ชมมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันซึ่งจะช่วยปรับปรุงความเข้าใจและการดึงดูดความสนใจเอาไว้องค์ประกอบเชิงโต้ตอบช่วยให้เนื้อหาจดจำได้ง่ายขึ้น

• บทช่วยสอนช่วยให้สามารถออกแบบเนื้อหาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลได้ดีขึ้น

• ให้ผลตอบรับแบบทันทีผ่านแบบทดสอบหรือสไลด์วิดีโอถาม-ตอบผลตอบรับนี้ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และระบุด้านที่ควรปรับปรุง

กรณีการใช้งานที่ดีที่สุด

• โมดูลการเรียนรู้ออนไลน์

• วิดีโอการฝึกอบรมออนไลน์

• การสาธิตผลิตภัณฑ์ด้วยองค์ประกอบเชิงโต้ตอบ

วิธีการวางแผนวิดีโอบทช่วยสอน

การวางแผนเป็นรากฐานของวิดีโอบทช่วยสอนและวิดีโอการสอนที่ประสบความสำเร็จแผนที่วางไว้อย่างดีจะช่วยให้เนื้อหาของคุณชัดเจน กระชับ และน่าสนใจคำแนะนำทีละขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณวางแผนวิดีโอบทช่วยสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพมีดังต่อไปนี้

กำหนดวัตถุประสงค์

ขั้นตอนแรกในการวางแผนวิดีโอบทช่วยสอนคือการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนการรู้ว่าคุณต้องการบรรลุสิ่งใดจะช่วยชี้นำกระบวนการทั้งหมดได้

• ระบุเป้าหมายหลักของบทช่วยสอน: คุณกำลังสอนทักษะใดทักษะหนึ่งโดยเฉพาะ กำลังอธิบายแนวคิด หรือกำลังสาธิตกระบวนการอยู่การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถมุ่งเน้นเนื้อหาของคุณเป็นหลักได้

• กำหนดประเด็นสำคัญสำหรับผู้ชมของคุณ: ลองนึกถึงสิ่งที่ผู้ชมควรจะทำได้หรือเข้าใจได้หลังจากรับชมบทช่วยสอนจบแล้ววัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้มั่นใจว่าบทช่วยสอนของคุณจะเป็นไปตามจุดประสงค์ที่ตั้งใจไว้นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณไม่หลงบอกเล่าถึงรายละเอียดที่ไม่จำเป็น

รู้จักผู้ชมของคุณ

การทำความเข้าใจกลุ่มผู้ชมเป้าหมายของคุณเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องและน่าดึงดูดปรับแต่งบทช่วยสอนของคุณให้ตรงตามความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

• ดำเนินการวิจัยผู้ชม: เรียนรู้ว่าผู้ชมของคุณคือใคร ผู้ชมสนใจเรื่องอะไร และระดับทักษะเป็นอย่างไรข้อมูลเหล่านี้จะช่วยคุณสร้างเนื้อหาที่เหมาะกับผู้ชมได้

• พิจารณาจากมุมมองของผู้ชม: พยายามทำความเข้าใจปัญหาของผู้ชมและแนวทางแก้ไขที่ผู้ชมกำลังมองหาการกล่าวถึงประเด็นเหล่านี้ช่วยให้บทช่วยสอนของคุณมีคุณค่าและน่าสนใจมากขึ้นจำไว้ว่าคุณคือแบบอย่างของพวกเขาในการแสวงหาความรู้

สร้างเค้าร่าง

เค้าร่างทำหน้าที่เป็นแผนการทำงานสำหรับบทช่วยสอนของคุณ ช่วยให้เกิดการไหลของข้อมูลอย่างสมเหตุสมผลซึ่งช่วยจัดระเบียบให้คุณและครอบคลุมประเด็นที่จำเป็นทั้งหมด

• แยกย่อยเนื้อหาออกเป็นส่วนๆ ที่สามารถจัดการได้: แบ่งบทช่วยสอนของคุณออกเป็นขั้นหรือส่วนต่างๆ ที่ชัดเจนและมีเหตุผลวิธีนี้ช่วยให้สามารถติดตามและจำแนกข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

• รวมประเด็นสำคัญและประเด็นย่อย: ร่างหัวข้อหลักและรายละเอียดสนับสนุนใดๆ ที่จำเป็นต้องครอบคลุมโครงสร้างนี้ช่วยให้เนื้อหาของคุณเป็นระเบียบและครอบคลุมทั่วถึง

รวบรวมแหล่งข้อมูล

การจัดเตรียมแหล่งข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มสร้างวิดีโอบทส่วนสอนของคุณเองนั้นจะช่วยประหยัดเวลาและช่วยให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น

• ระดมความคิดเกี่ยวกับสคริปต์วิดีโอและองค์ประกอบ: ระบุสิ่งที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ สคริปต์ และเครื่องมืออื่นๆ ที่คุณต้องใช้

• เตรียมสื่อภาพและตัวอย่าง: รวบรวมรูปภาพ ภาพหน้าจอ หรือวิดีโอที่คุณจะใช้ประกอบประเด็นต่างๆ ของคุณ

ข้อผิดพลาดในการวางแผนที่พบได้ทั่วไป

การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการวางแผนที่พบได้ทั่วไปช่วยให้แน่ใจได้ว่าวิดีโอบทช่วยสอนของคุณจะมีประสิทธิภาพและน่าสนใจ

• อัดแน่นด้วยข้อมูลมากเกินไป: เนื้อหาของคุณต้องมุ่งเน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งและกระชับข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกท่วมท้นและเข้าใจประเด็นสำคัญผิดไปได้

• ไม่สร้างเค้าร่าง: เค้าร่างช่วยรักษาโครงสร้างที่ชัดเจนและครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งหมดเอาไว้หากไม่มีเค้าร่าง บทช่วยสอนของคุณอาจดูสับสนตั้งแต่เริ่มต้นคุณคงไม่อยากให้คนอื่นมองว่าวิดีโอบทช่วยสอนของคุณนั้นจำเป็นต้องมีบทช่วยสอนอีกทีใช่ไหมล่ะ!

องค์ประกอบของวิดีโอบทช่วยสอนที่ยอดเยี่ยม

การสร้างวิดีโอบทช่วยสอนที่ดีนั้นไม่ได้มีแค่การกดปุ่มบันทึกเท่านั้นยังมีองค์ประกอบสำคัญอีกหลายประการที่มีส่วนช่วยให้บทช่วยสอนของคุณชัดเจน น่าสนใจ และมีประสิทธิภาพมาแยกย่อยองค์ประกอบเหล่านี้กัน เพื่อช่วยคุณสร้างบทช่วยสอนที่โดดเด่น

การไหลและโครงสร้างของเนื้อหา

วิดีโอบทช่วยสอนที่มีโครงสร้างดีจะช่วยให้ผู้ชมติดตามเนื้อหาได้โดยไม่สับสน

• สร้างลำดับที่สมเหตุสมผล: จัดระเบียบเนื้อหาของคุณในลักษณะที่สมเหตุสมผลและมีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจนการไหลแบบมีตรรกะช่วยให้แน่ใจว่าแต่ละขั้นตอนจะสร้างขึ้นจากขั้นตอนก่อนหน้า

• ใช้เทคนิค การบอกเล่าเรื่องราว: แทรกเรื่องราวหรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้เนื้อหาน่าสนใจยิ่งขึ้น เรื่องราวที่ดีช่วยให้แม้แต่หัวข้อที่น่าเบื่อที่สุดก็น่าสนใจมากขึ้นได้

• ปรับเปลี่ยนการนำเสนอเนื้อหาของคุณ: ผสมผสานเนื้อหาประเภทต่างๆ เช่น ภาพ เสียง และองค์ประกอบเชิงโต้ตอบ เพื่อให้บทช่วยสอนดูมีชีวิตชีวาความหลากหลายนี้ช่วยตอบโจทย์ต่อรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกันและช่วยให้ผู้ชมติดตามเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบได้

วิดีโอและภาพคุณภาพสูง

ในการสร้างวิดีโอนั้น คุณภาพถือเป็นสิ่งสำคัญภาพหรือเสียงที่ไม่ดีอาจส่งผลเสียต่อเนื้อหาของคุณและทำให้ผู้ชมหงุดหงิดได้

• ลงทุนกับอุปกรณ์ดีๆ: ใช้กล้องและไมโครโฟนที่ดีเพื่อให้แน่ใจว่าภาพและเสียงจะชัดเจนการผลิตคุณภาพสูงช่วยให้บทช่วยสอนของคุณดูเป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้

• ผสมผสานองค์ประกอบภาพต่างๆ: ผสมผสาน วิดีโอ รูปภาพ และ GIF เพื่อถ่ายทอดใจความในบทช่วยสอนของคุณและรองรับองค์ประกอบภาพวิดีโอหลัก

• ตัดต่อให้ชัดเจน: ใช้ โปรแกรมตัดต่อวิดีโอออนไลน์เพื่อตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก และรักษาการบอกเล่าเรื่องราวและการไหลของข้อมูลให้กระชับเข้าไว้ เนื้อหาที่ตัดต่อมาอย่างดีและเรียบร้อยนั้นช่วยให้ติดตามได้ง่ายและน่ารับชมมากขึ้น

• เพิ่มการซ้อนวิดีโอ: ใช้ เอฟเฟ็กต์ภาพในภาพเพื่อซ้อนรูปภาพและวิดีโอลงในบทช่วยสอนของคุณ เพื่อช่วยในการสอนบทเรียนของคุณ

• เพิ่มการเปลี่ยนภาพวิดีโอ: การเปลี่ยนภาพที่ลื่นไหลระหว่างส่วนต่างๆ ช่วยรักษาความไหลลื่นและดึงดูดความสนใจของผู้ชมเอาไว้ ให้คิดว่าการเปลี่ยนภาพนี้ก็เป็นเหมือนกาวที่ยึดเนื้อหาของคุณเข้าไว้ด้วยกัน

• วิดีโอคุณภาพสูง: บันทึกวิดีโอบทช่วยสอนของคุณในความละเอียดวิดีโอความคมชัดสูง 1080p เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด

เสียงประกอบ

แม้ว่าเรื่องภาพจะสำคัญที่สุด แต่คุณก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องเสียงวิดีโอบทสอนที่ดีที่สุดจะใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์เสียงอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับประสบการณ์

• เลือกเพลง: ใช้ เพลงประกอบที่ปลอดค่าลิขสิทธิ์เพื่อดึงดูดผู้ชมโดยไม่รบกวนเนื้อหาการสอน

• เพิ่มการพากย์เสียงเพื่อความชัดเจน: สร้าง เสียงพากย์จริงที่ชัดเจน เพื่อดึงดูดความสนใจบนโซเชียลมีเดีย และทำให้วิดีโอบทช่วยสอนของคุณติดตามได้ง่ายขึ้น

• เพิ่มเอฟเฟกต์เสียง: เพิ่ม เอฟเฟกต์เสียงเฉพาะตัวในแต่ละส่วนในวิดีโอบทช่วยสอน เพื่อเน้นข้อความหรือคำสำคัญ

การช่วยสำหรับการเข้าถึงวิดีโอ

อย่ามองข้ามผู้ชมที่มีปัญหาทางการได้ยินหรือหูหนวก วิดีโอสอนของคุณควรให้ข้อมูลและ สามารถเข้าถึงได้บนเว็บทั้งแบบมีเสียงและไม่มีเสียง

• เพิ่มคำบรรยายอัตโนมัติ: ปรับแต่งวิดีโอแนะนำของคุณด้วยคำบรรยาย เพื่อช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเนื้อหาของคุณได้ในโหมดปิดเสียงด้วยฟีเจอร์ คำบรรยายอัตโนมัติ

• เลเยอร์ข้อความเคลื่อนไหว: เพิ่มชื่อและ ข้อความบริเวณตอนล่างหนึ่งในสามของหน้าจอ เพื่อกำหนดขั้นตอนบทช่วยสอนและแนะนำวิชาหรืออาจารย์

• เพิ่มสติกเกอร์ภาษามือ: เพิ่ม วิดีโอสติกเกอร์ภาษามือเคียงข้างกันกับเนื้อหาวิดีโอของคุณ หรือใช้กับคลิปวิดีโอแบบสแตนด์อโลนเพื่อสื่อความหมายให้กับชุมชมของผู้ที่มีความบกพร่องในการได้ยิน

วิธีตัดต่อวิดีโอบทช่วยสอนใน Clipchamp

ขั้นตอนที่ 1 นำเข้าวิดีโอ เลือกฟุตเทจในสต็อก หรือบันทึกวิดีโอ

ถ้าต้องการนำเข้าวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าของคุณเอง ให้คลิกที่ปุ่มนำเข้าสื่อในแท็บสื่อของคุณบนแถบเครื่องมือเพื่อเรียกดูไฟล์ในคอมพิวเตอร์ นำเข้าวิดีโอจากโทรศัพท์ หรือเชื่อมต่อ OneDrive ของคุณ

คุณยังสามารถใช้ มีเดียในสต็อกที่ปลอดค่าลิขสิทธิ์ได้อีกด้วย คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ และคลิกที่ลูกศรแบบหล่นลงของภาพ จากนั้นเลือกวิดีโอหรือพื้นหลัง ค้นหาตามประเภทต่างๆ ในสต็อกโดยใช้แถบค้นหาได้เช่นกัน

หากคุณต้องการสร้างวิดีโอบทช่วยสอนโดยใช้โปรแกรมบันทึกหน้าจอและ กล้อง ให้คลิกที่แท็บบันทึกและสร้าง จากนั้นคลิกที่ตัวเลือกหน้าจอและกล้อง บันทึกหน้าจอและเว็บแคมของคุณโดยใช้พร้อมท์บนหน้าจอ เมื่อเสร็จแล้ว การบันทึกจะถูกเพิ่มลงในไทม์ไลน์ของคุณโดยอัตโนมัติ หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม ให้ดู บล็อกการบันทึกหน้าจอและกล้อง

บทช่วยสอนนี้จะใช้ฟุตเทจจากวิดีโอบันทึกจากเว็บแคมพร้อมเสียง

ขั้นตอนที่ 2 เพิ่มองค์ประกอบภาพ เช่น ข้อความ สติ๊กเกอร์ และคำอธิบายประกอบ

หากต้องการ เพิ่มข้อความในวิดีโอการสอนของคุณ ให้คลิกที่แท็บข้อความบนแถบเครื่องมือ จากนั้นเลือกชื่อเรื่องที่เหมาะกับวิดีโอบทช่วยสอนของคุณมากที่สุด เราขอแนะนำให้ใช้ ชื่อที่ตอนล่างหนึ่งในสามหรือชื่อหลายบรรทัดลากแล้วปล่อยชื่อเรื่องลงในไทม์ไลน์ จากนั้นแก้ไขข้อความของคุณในแท็บข้อความบนแผงคุณสมบัติ

หากต้องการเพิ่มอีโมจิหรือ สติกเกอร์ภาษามือ ให้คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ จากนั้นค้นหาคอลเลกชันสติ๊กเกอร์รูปบุคคล ลากและวางสติกเกอร์ลงบนไทม์ไลน์

หากต้องการเพิ่มคำอธิบายประกอบ เช่น วงกลม ลูกศร และขีดล่าง ให้คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ จากนั้นคลิกแท็บรูปร่างและคำอธิบายประกอบในเมนูแบบหล่นลงลากและวางลูกศรลงในไทม์ไลน์

ขั้นตอนที่ 3เพิ่มเพลงประกอบในวิดีโอบทช่วยสอนของคุณ

คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ จากนั้นคลิกที่เมนูแบบหล่นลงของเสียง แล้วเลือกเพลง ค้นหาโดยใช้คำสำคัญหรือเลื่อนดูหมวดหมู่ที่รวบรวมไว้ ลากแล้วปล่อยคลิปเสียงในสต็อกของคุณลงบนไทม์ไลน์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ลดระดับเสียงของแทร็กเสียงของคุณโดยใช้แถบเลื่อนระดับเสียงในแท็บระดับเสียงบนแผงคุณสมบัติ

ขั้นตอนที่ 4 เพิ่มคำบรรยายลงในวิดีโอบทช่วยสอน

หากต้องการเพิ่มคำบรรยายลงในวิดีโอ ให้คลิกที่แท็บคำอธิบายภาพบน แผงคุณสมบัติหน้าต่างป็อปอัพจะปรากฏขึ้นมาพร้อมตัวเลือกการถอดเสียงด้วย AI เลือกภาษาที่คุณต้องการใช้และเลือกว่าต้องการกรองคำหยาบคายหรือไม่เมื่อคุณพร้อมที่จะสร้างคำบรรยายของคุณแล้ว ให้คลิกที่ปุ่มถอดเสียงสื่อ คุณจะย้อนกลับไปยังโปรแกรมตัดต่อโดยอัตโนมัติและจะเห็นว่าข้อความคำบรรยายของคุณกำลังถูกสร้างขึ้นในแท็บคำอธิบายภาพบนแผงคุณสมบัติ

สร้างคำบรรยายที่ถูกต้องในภาษาต่างๆ ทั่วโลกคุณยังสามารถแก้ไขฟอนต์ ขนาด การจัดแนว สี และตำแหน่งได้เช่นกันในแท็บข้อความ

ขั้นตอนที่ 5 แสดงตัวอย่างและบันทึกวิดีโอบทช่วยสอนของคุณ

ก่อนการบันทึกวิดีโอแนะนำใหม่ของคุณ อย่าลืมแสดงตัวอย่างโดยคลิกที่ปุ่มเล่น เมื่อคุณพร้อมที่จะบันทึก ให้คลิกที่ปุ่มส่งออกและเลือกความละเอียดของวิดีโอ เราขอแนะนำให้บันทึกวิดีโอทั้งหมดด้วยความละเอียดวิดีโอ 1080p เพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด สมาชิกแบบชำระเงินสามารถบันทึกด้วยความละเอียดวิดีโอ 4K ได้

วิธีการสร้างเสียงพากย์บทช่วยสอนด้วย AI

หากคุณต้องการเพิ่ม เสียงพากย์ AI ลงในวิดีโอของคุณ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. คลิกที่แท็บบันทึกและสร้างบนแถบเครื่องมือ

2. ในแผงคุณสมบัติ ให้เลือกภาษาและเสียง AI ของคุณ

3. ปรับแต่งการตั้งค่าขั้นสูง เช่น ระดับเสียงและจังหวะการพูด

4. พิมพ์ข้อความของคุณเพื่อสร้างเสียงพากย์

5. แสดงตัวอย่างวิดีโอของคุณโดยใช้ปุ่มเล่น

6. บันทึกเสียงพากย์ของคุณเพื่อเพิ่มลงในไทม์ไลน์การตัดต่อวิดีโอ

วิธีบันทึกเสียงของคุณสำหรับบทช่วยสอน

หากคุณต้องการบันทึกเสียงบรรยายใหม่สำหรับวิดีโอของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. คลิกที่แท็บบันทึกและสร้างบนแถบเครื่องมือ

2. เลือกเสียงเพื่อเปิด โปรแกรมบันทึกเสียง

3. ให้สิทธิ์เข้าถึงไมโครโฟนในหน้าต่างป็อปอัพ

4. คลิกปุ่มสีแดงเพื่อบันทึก

5. แสดงตัวอย่างและบันทึกเสียงบันทึกของคุณลงในไทม์ไลน์

อ่านบล็อกนี้เพื่อดูคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีบันทึกไมโครโฟนของคุณใน Clipchamp

เรียนรู้วิธีอื่นๆ ในการสร้างเนื้อหาด้านการศึกษา เช่น วิดีโอฝึกอบรม หรือสำรวจเคล็ดลับการตัดต่อวิดีโอ เช่น วิธีวางวิดีโอสองอันไว้เคียงข้างกัน

เริ่มการตัดต่อวันนี้ด้วย Clipchamp ฟรี หรือดาวน์โหลด แอป Clipchamp สำหรับ Windows