วิธีการสร้างวิดีโอพ็อดแคสต์ที่มีแถบคลื่นเสียง

พ็อดแคสต์กลายเป็นสื่อใหม่ที่เราชื่นชอบในการบอกเล่าเรื่องราวและสอนบทเรียน โดยได้รับความนิยมบน YouTube พอๆ กับในแอปฟังเพลงอย่าง Spotify และ Apple Music และด้วยอัลกอริทึม การโพสต์บน YouTube ยังช่วยให้ผู้ชมเห็นและได้ยินพ็อดแคสต์ในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย

หากคุณพร้อมที่จะโพสต์วิดีโอของคุณบน YouTube ให้เพิ่มประสบการณ์การฟังอีกขั้นหนึ่งด้วยภาพ ตั้งแต่การบันทึกวิดีโอเกี่ยวกับพ็อดแคสต์ของคุณไปจนถึงรูปคลื่นเสียงแบบเคลื่อนไหว เรียนรู้เกี่ยวกับวิดีโอพ็อดแคสต์ประเภทต่างๆ สำรวจตัวอย่างสร้างแรงบันดาลใจ และทำตามคำแนะนำทีละขั้นตอนของเราเพื่อสร้างวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณเองใน Clipchamp

วิดีโอพ็อดแคสต์คืออะไร

วิดีโอพ็อดแคสต์คือการผสมผสานระหว่าง เสียงพ็อดแคสต์และ สื่อภาพองค์ประกอบวิดีโออาจเรียบง่ายเหมือนพื้นหลังธรรมดาที่มีโลโก้ หรือซับซ้อนเหมือนกับการบันทึกวิดีโอที่มีการตัดต่อ ทุกคนสามารถสร้างพ็อดแคสต์พร้อมวิดีโอได้ โดยแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับ ประเภทต่างๆ มากมาย ได้แก่ กีฬา อาชญากรรม เทคโนโลยี เรื่องตลก สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ อีกมากมาย

ไม่ใช่เพียงนักพ็อดแคสต์มืออาชีพเท่านั้นที่โพสต์บน YouTube แต่ยูทูบเบอร์มืออาชีพยังมีแนวโน้มที่จะสร้าง พ็อดแคสต์ลงในช่องของตนเองและเพิ่มรายได้ในท้ายที่สุด ครีเอเตอร์ได้ใช้ YouTube อย่างชาญฉลาดและเปลี่ยนแพลตฟอร์มที่เน้นวิดีโอเป็นหลักเพื่อรวมพ็อดแคสต์ สิ่งนี้ใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึมเพื่อพบปะผู้ฟังใหม่ๆ จึงสร้างรายได้มากขึ้นและขยายสื่อให้เติบโตอย่างรวดเร็ว

คุณอาจเคยได้ยินชื่อ Emma Chamberlainเมื่อมีสมาชิกมากกว่า 12 ล้านคน Chamberlain จึงตัดสินใจใช้แพลตฟอร์มและฐานแฟนๆ ของเธอเพื่อทำให้พ็อดแคสต์ของเธอเป็นที่นิยมบนช่อง YouTube

ลักษณะวิดีโอพ็อดแคสต์ยอดนิยม

วิดีโอพ็อดแคสต์ภาพ

วิดีโอพ็อดแคสต์ไม่จำเป็นต้องมีพื้นหลังเคลื่อนไหวเสมอไป ดาวเด่น YouTube ผู้โด่งดัง Lavendaire ใช้ภาพนิ่งของตัวเธอเอง พร้อมกับใส่ข้อความให้ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์พ็อดแคสต์และหมายเลขตอนทางด้านขวามือ

วิดีโอพ็อดแคสต์ของแถบคลื่นเสียง

หากคุณไม่มีวิดีโอประกอบที่คุณต้องการโพสต์พร้อมกับพ็อดแคสต์ การใช้ โอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียงเป็นองค์ประกอบแบบไดนามิกที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมของคุณได้

วิธีการสร้างวิดีโอพ็อดแคสต์ที่มีแถบคลื่นเสียง

ขั้นตอนที่ 1 บันทึกหรืออัปโหลดเสียง

หากต้องการนำเข้าเสียงพ็อดแคสต์ของคุณเอง ให้คลิกที่ปุ่มนำเข้าสื่อในแท็บสื่อของคุณบนแถบเครื่องมือเพื่อเรียกดูไฟล์ในคอมพิวเตอร์ คุณยังสามารถนำเข้าไฟล์ของคุณได้ หากคุณเชื่อมต่อ OneDrive ของคุณ

ตอนนี้ ไฟล์เสียงจะอยู่ในแท็บสื่อของคุณ ลากแล้วปล่อยไฟล์เสียงของคุณลงบนไทม์ไลน์

นอกจากนี้ คุณยังสามารถบันทึกเสียงของคุณได้โดยตรงภายใน Clipchamp โดยใช้เครื่องมือเครื่องบันทึกเสียง หากต้องการค้นหาเครื่องบันทึกเสียง ให้คลิกที่แท็บบันทึกและสร้างบนแถบเครื่องมือ จากนั้นคลิกที่ตัวเลือกเสียง

คลิกที่ปุ่มไมโครโฟนสีแดงเพื่อเริ่มและหยุดการบันทึกพ็อดแคสต์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 2 เพิ่มคลิปวิดีโอในสต็อก รูปภาพ หรือพื้นหลังเคลื่อนไหว

จากนั้น ให้ใส่พื้นหลังให้กับวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณ หากคุณไม่มีฟุตเทจวิดีโอส่วนบุคคล คุณยังสามารถใช้ มีเดียในสต็อกฟรี เช่น คลิปวิดีโอ พื้นหลังสำหรับวิดีโอ และเพลงในสต็อกได้อีกด้วย

คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ และคลิกที่ลูกศรดรอปดาวน์ของภาพ แล้วเลือกวิดีโอ เรียกดูคอลเลกชันสต็อกต่างๆ ที่เรียบเรียงตามธีมหรือใช้แถบค้นหา

สำหรับบทช่วยสอนนี้ เราได้เลือก พื้นหลังวิดีโอนามธรรมลากและปล่อยพื้นหลังของคุณลงบนไทม์ไลน์เหนือไฟล์เสียงของคุณ

หากแอสเซทสื่อของคุณมีความยาวแตกต่างจากไฟล์เสียง ให้ ขยายแอสเซทพื้นหลังโดยใช้แถบด้านข้างสีเขียวบนไทม์ไลน์

ขั้นตอนที่ 3 เพิ่มโอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียง

คลิกที่แท็บไลบรารีเนื้อหาบนแถบเครื่องมือ และคลิกที่ลูกศรดรอปดาวน์ของภาพ แล้วเลือกโอเวอร์เลย์ คลิกที่ทางลัดโอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียงใต้แถบค้นหา ลากและปล่อยแถบคลื่นเสียงลงบนไทม์ไลน์

วาง โอเวอร์เลย์ไว้เหนือไฟล์วิดีโอและเสียงของคุณ

ปรับความยาวของโอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียงให้ตรงกับไฟล์วิดีโอและเสียงของคุณ ขยายโอเวอร์เลย์โดยใช้แถบด้านข้างสีเขียวบนไทม์ไลน์

ขั้นตอนที่ 4 กำหนดแถบคลื่นเสียงเอง

หากต้องการแก้ไขขนาดและลักษณะของโอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียง ให้คลิกที่แท็บแปลงเพื่อเปิดแผงคุณสมบัติทางด้านขวาของหน้าจอ คุณสามารถแก้ไขสี และขนาด และเปลี่ยนการแสดงผลจากแท่งเสียงเป็นคลื่นเสียงที่ลื่นไหลได้

หากต้องการแก้ไขสี ให้คลิกmujแท็บสี แล้วเลือกค่าสีที่ตั้งไว้หรือพิมพ์รหัสสีฐานสิบหก นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มการจางและฟิลเตอร์ และปรับสีของแถบคลื่นเสียงโดยใช้แท็บอื่นๆ บนแผงคุณสมบัติ

เปลี่ยนลักษณะของแถบคลื่นเสียงของคุณด้วยเอฟเฟ็กต์วิดีโอสนุกๆ ที่มีอยู่ในแผงคุณสมบัติ คลิกที่แท็บเอฟเฟ็กต์ จากนั้นเลือกเอฟเฟ็กต์วิดีโอที่เหมาะกับวิดีโอของคุณ

ขั้นตอนที่ 5 เพิ่มโลโก้พ็อดแคสต์ของคุณ

เพิ่มโลโก้พ็อดแคสต์หรือรูปภาพปกของคุณจากคอมพิวเตอร์โดยใช้ปุ่มนำเข้าสื่อ เลือกโลโก้ของคุณ จากนั้นคลิกที่ปุ่มเปิด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโลโก้ของคุณอยู่ในรูปแบบไฟล์ PNG, JPEG หรือ SVG โดยมีขนาดสูงสุด 10 MB

ขั้นตอนที่ 6 บันทึกวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณ

เมื่อคุณพร้อมที่จะบันทึกพ็อดแคสต์ที่มีแถบคลื่นเสียง ให้คลิกที่ปุ่มส่งออก แล้วเลือกคุณภาพของวิดีโอ เราขอแนะนำให้บันทึกที่ 1080p เพื่อ วิดีโอ YouTube คุณภาพสูงสุด

คุณสามารถเผยแพร่วิดีโอของคุณลงบน YouTube ได้โดยตรงโดยใช้การผสานรวมของเรา เรียนรู้เพิ่มเติม

เพิ่มเอฟเฟ็กต์พิเศษให้กับวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณ

ปรับแต่งความเร็ว

วิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณยาวเกินไปใช่ไหม ปรับปรุงและ ปรับแต่งความเร็วของเสียงด้วย ฟีเจอร์ตัวเลือกความเร็วที่มีประโยชน์ของเรา คุณสามารถปรับความเร็วของวิดีโอและเสียงได้โดยใช้แถบเลื่อนหรือแม้แต่ตัดต่อแอสเซทด้วยตนเองโดยใช้ค่าตัวเลขของความเร็วเฉพาะ

เพิ่มสติกเกอร์ที่พร้อมสำหรับ YouTube

หากคุณแชร์วิดีโอพ็อดแคสต์ลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น YouTube อย่าลืมเพิ่ม สติกเกอร์กดถูกใจและสมัคสมาชิก และ อินโทรและเอาต์โทรที่สวยงาม

เพิ่มบัมเปอร์หรือสตริงเกอร์พ็อดแคสต์

ค้นหาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของพ็อดแคสต์เพื่อดึงดูดผู้ฟังระหว่างช่วงอินโทร การเปลี่ยนภาพระหว่างส่วนของพ็อดแคสต์ และปิดการแสดงของคุณ เลือกจากซาวด์แทร็กต้นฉบับและปลอดลิขสิทธิ์มากมายใน Clipchamp ค้นหาบัมเปอร์หรือสตริงเกอร์จากประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นป็อป อิเล็กทรอนิกส์ ฮิปฮอป องค์กร และแม้แต่ Lo-Fi เรียกดูไลบรารีเพลง

เพิ่มคำบรรยายลงในวิดีโอของคุณ

ทำให้ผู้ชมเข้าถึงวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณได้มากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของคำบรรยาย ฟีเจอร์คำบรรยายอัตโนมัติจะทำงานที่ยากลำบากทั้งหมดให้คุณโดยการสร้างคำบรรยายและการถอดเสียงพูดโดยอัตโนมัติ เพียงคลิกmujแท็บคำบรรยายบนแผงคุณสมบัติและเปิดปุ่มคำบรรยายอัตโนมัติ สำหรับบทช่วยสอน

ด้วยความช่วยเหลือของ โอเวอร์เลย์แถบคลื่นเสียง คุณจะสามารถสร้างวิดีโอพ็อดแคสต์ได้ในเวลาไม่นาน เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเพิ่มองค์ประกอบเพิ่มเติมลงในวิดีโอของคุณ เช่น การเปลี่ยนภาพและ ข้อความ หรือลองสร้างวิดีโอพ็อดแคสต์เลย

สร้างวิดีโอพ็อดแคสต์ของคุณได้ฟรีบน Clipchamp ในเบราว์เซอร์หรือดาวน์โหลด แอป Clipchamp Windows