วิธีสร้างวิดีโอการฝึกอบรม – เคล็ดลับและตัวอย่าง

ไม่ว่าคุณจะกำลังเตรียมความพร้อมให้พนักงานใหม่ อธิบายกระบวนการต่างๆ ให้ทีม หรือแนะนำโปรแกรมใหม่ วิดีโอการฝึกอบรมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแบ่งปันคำแนะนำให้กับผู้ชมในทุกระดับ มีการคาดการณ์ว่า ชาวอเมริกันประมาณ 32.6 ล้านคนจะทำงานจากระยะไกลภายในปี 2025 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงทุนด้านวิดีโอการฝึกอบรมคุณภาพสูงและน่าสนใจ

อ่านต่อเพื่อสำรวจวิดีโอการฝึกอบรมยอดนิยม 5 ประเภทพร้อมตัวอย่างในขณะที่เรียนรู้วิธีสร้างวิดีโอของคุณเองด้วย Clipchamp

วิดีโอการฝึกอบรมยอดนิยม 5 ประเภทพร้อมตัวอย่าง

1. วิดีโอการฝึกอบรมออนไลน์

วิดีโอการฝึกอบรมออนไลน์ให้เนื้อหาการฝึกอบรมและคำแนะนำแก่ผู้ชมจำนวนมากซึ่งสามารถดูซ้ำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ตั้งแต่การอธิบายกระบวนการใหม่ไปจนถึงรายการตรวจสอบด้านสุขภาพและความปลอดภัย วิดีโอการฝึกอบรมที่ดีที่สุดจะดึงดูดผู้ชม ติดตามได้ง่าย และมีการกำหนดตราสินค้าที่จดจำได้

หากต้องการสร้างวิดีโอการฝึกอบรมออนไลน์แบบเป็นส่วนตัว ลองใช้โปรแกรมบันทึกหน้าจอและกล้องเพื่อให้ผู้ชมสามารถมองเห็นคุณได้ขณะนำเสนอเนื้อหา รวมส่วนที่ชัดเจนในเนื้อหาการฝึกอบรมของคุณด้วย โอเวอร์เลย์ข้อความ และ การเปลี่ยนภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าวิดีโอของคุณยังคงรักษาแบรนด์ไว้เช่นกัน สุดท้าย อย่าลืมเรื่องการช่วยสำหรับการเข้าถึงและสร้างการพากย์เสียงพร้อม คำบรรยายเพื่อให้เข้าถึงได้มากขึ้น

2. วิดีโอบทช่วยสอน

วิดีโอบทช่วยสอนจะแนะนำผู้ชมทั้งงานง่ายๆ และซับซ้อน โดยจะอธิบายขั้นตอนต่างๆ อย่างชัดเจนในลำดับที่ทำตามได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อใดก็ตาม วิดีโอบทช่วยสอนถือเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการให้ความรู้ ความบันเทิง และเสริมการเรียนรู้

ในการสร้างวิดีโอบทช่วยสอนแบบมืออาชีพ คุณเพียงแค่อัปโหลดวิดีโอหรือบันทึกโดยตรงภายในโปรแกรมตัดต่อ เพิ่มการเปลี่ยนฉากเพื่อสรุปแต่ละส่วนในคู่มือของคุณ ภาพเคลื่อนไหวของข้อความเพื่อความชัดเจน และแม้กระทั่งใส่ สติกเกอร์สนุกๆ หรือโอเวอร์เลย์อีโมจิ หากคุณไม่ต้องการใช้เสียงของคุณเองในวิดีโอบทช่วยสอน เพียงสร้าง การพากย์เสียงที่สร้างโดย AI แทน

3. วิดีโอสาธิตการใช้

วิดีโอสาธิตการใช้เป็นรูปแบบการสอนอีกประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นเฉพาะวิธีการทำงานให้สำเร็จลุล่วง แม้ว่าวิดีโอบทช่วยสอนจะสอนคุณทุกสิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับการวางแผนบทเรียนได้ แต่ยังมีวิดีโอสาธิตการใช้ที่จะสอนคุณถึง “วิธี” การทำงานอย่างชัดเจน

สร้างวิดีโอสไตล์ผู้นำเสนอด้วยโปรแกรมบันทึกเว็บแคมโดยใช้ โค้ชฝึกพูดเพื่อช่วยเสริมทักษะการนำเสนอของคุณ เทคโนโลยี AI ของเราตรวจจับคำฟุ่มเฟือยและคำซ้ำ ให้คำติชมทันทีเกี่ยวกับระดับเสียงและความเร็ว เพื่อให้คุณบันทึกได้ดีที่สุดเสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ชมของคุณสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้โดยมีหรือไม่มีเสียงโดย การสร้างคำบรรยายสำหรับวิดีโอสาธิตการใช้ของคุณด้วย ปิดท้ายด้วยการวงกลมส่วนสำคัญของฟุตเทจของคุณด้วย โอเวอร์เลย์คำอธิบายประกอบเพื่อไม่ให้มองข้ามข้อมูลสำคัญ

4. วิดีโอการนำเสนอ

วิดีโอการนำเสนอทำให้สไลด์มีชีวิตชีวาด้วยการเคลื่อนไหว เสียง และ การเปลี่ยนภาพเริ่มสร้างด้วย การบันทึกตัวเองขณะนำเสนอสไลด์ของคุณ จากนั้นใช้เอฟเฟ็กต์ภาพในภาพเพื่อแสดงทั้งใบหน้าและเนื้อหาของคุณในคราวเดียว เก็บวิดีโอการนำเสนอของคุณเกี่ยวกับแบรนด์ด้วยรูปแบบสีส่วนบุคคล โลโก้แบรนด์ และฟอนต์ที่บันทึกไว้อย่างปลอดภัยภายใน ชุดแบรนด์อย่าลืมเพิ่ม เพลงประกอบที่นุ่มนวลและปลอดค่าลิขสิทธิ์เพื่อให้ผู้ชมของคุณสนใจตลอดวิดีโอการนำเสนอของคุณ ใช้ เทมเพลตนี้เพื่อสร้างวิดีโอการนำเสนอในเวลาไม่กี่นาที

5. วิดีโอแอนิเมชั่น

วิดีโอแอนิเมชั่นเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มชีวิตชีวาให้กับแนวคิดนามธรรมมานานแล้ว สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมและให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาที่มีข้อมูลหนาแน่นด้วยวิดีโอแอนิเมชั่นที่ไม่ซ้ำใคร

ตั้งแต่การบรรยายและบทความวิดีโอไปจนถึงคำอธิบายโดยละเอียด เนื้อหาการฝึกอบรมใดๆ ก็สามารถแชร์ได้อย่างง่ายดายผ่านแอนิเมชั่นที่พบใน ไลบรารีเนื้อหาเพียงเพิ่ม โอเวอร์เลย์ข้อความ สติกเกอร์ และรูปภาพแอนิเมชั่นเพื่อช่วยเสริมวิดีโอของคุณ อย่าลืมเรียกดู เทมเพลตวิดีโอของเราเพื่อค้นหาเค้าโครงที่พร้อมใช้งานสำหรับวิดีโอการฝึกอบรมแอนิเมชั่นของคุณ

เคล็ดลับในการสร้างวิดีโอการฝึกอบรมที่ดีที่สุด

• วางแผนด้วยกระดานเรื่องราว: การสร้าง กระดานเรื่องราวสำหรับวิดีโอการสอนของคุณเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาโครงสร้างที่ชัดเจน และช่วยให้ผู้ดูติดตามเนื้อหาได้ง่ายขึ้น คุณอาจจะใช้รายการที่แยกด้วยจุดหรือวาดภาพร่างเพื่อเน้นประเด็นสำคัญ สไตล์การตัดต่อวิดีโอ และธีมของวิดีโอ

• การตรวจสอบไมโครโฟนและเสียง: ถ้าคุณภาพเสียงของคุณไม่ดีนัก ผู้ชมอาจจะเลิกดูหรือคลิกออกจากวิดีโอของคุณเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ยินและไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด อย่าลืมตรวจสอบแหล่งที่มาของเสียงไมโครโฟนก่อนบันทึก ถ้าเสียงรบกวนพื้นหลังของคุณดังเกินไป ให้ลองใช้ คำบรรยายเพื่อช่วยเสริมวิดีโอการฝึกอบรมของคุณ

• บันทึกโดยไม่มีสิ่งรบกวน: สิ่งสำคัญคือต้องทำให้วิดีโอการฝึกอบรมเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีสิ่งรบกวนน้อยที่สุดเพื่อดึงดูดผู้ชมให้นานขึ้น เราขอแนะนำให้บันทึกวิดีโอของคุณในพื้นที่ที่เงียบสงบโดยมี เสียงจากพื้นหลังน้อยที่สุด

• เน้นประเด็นสำคัญ: หลีกเลี่ยงการทำให้ผู้ชมสับสนและหมดความสนใจโดยใส่เฉพาะข้อมูล ภาพ และ การพากย์เสียงที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเท่านั้น พยายามอย่าให้ข้อมูลมากเกินไปในคราวเดียว

วิธีตัดต่อและขัดเกลาวิดีโอการฝึกอบรมด้วย Clipchamp

ตัดแต่งจุดที่ผิดพลาดและฟุตเทจส่วนเกินออก

ขัดเกลาวิดีโอการฝึกอบรมของคุณโดยตัดช่วงที่หยุดชะงักนานออกและตัดแต่งฟุตเทจส่วนเกินออกโดยใช้ ตัวตัดแต่งวิดีโอหากเนื้อหาการสอนของคุณต้องมีความยาวหรือขีดจำกัดเวลาตามที่กำหนด ให้ใช้ เครื่องมือแยกเพื่อตัดวิดีโอของคุณออกเป็นหลายส่วน

ปรับขนาดวิดีโอการฝึกอบรมของคุณสำหรับทุกแพลตฟอร์ม

หากคุณต้องการ ปรับขนาดวิดีโอการฝึกอบรมของคุณเพื่อแชร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เพียงใช้ ค่าที่ตั้งไว้ของอัตราส่วน โดยไม่จำเป็นต้องบันทึกเนื้อหาการฝึกอบรมใหม่หรือทนกับขอบดำที่ดูไม่เข้ากัน

ปรับปรุงการช่วยสำหรับการเข้าถึงด้วยข้คำอธิบายภาพและข้อความ

ตัดต่อวิดีโอการฝึกอบรมของคุณให้ เข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยคำบรรยายที่สร้างโดย AI คุณยังสามารถ ดาวน์โหลดการถอดเสียงพูดวิดีโอ โดยใช้ฟีเจอร์คำอธิบายภาพ อย่าลืมสร้างหัวข้อใหม่หรือข้อมูลสำคัญให้โดดเด่นด้วยโอเวอร์เลย์ข้อความ

ระบุหัวข้อต่างๆ ด้วยการเปลี่ยนภาพ

ยกระดับวิดีโอการฝึกอบรมของคุณโดยการแยกหัวข้อต่างๆ ด้วย การเปลี่ยนภาพและเอฟเฟ็กต์เสียง เพียงลากแล้วปล่อยการเปลี่ยนภาพระหว่างคลิปวิดีโอสองคลิปในไทม์ไลน์ ยกระดับการเปลี่ยนภาพโดยจับคู่กับ เอฟเฟ็กต์เสียง

สร้างการพากย์เสียงด้วย AI หรือโปรแกรมบันทึกเสียง

เพิ่มมูลค่าให้กับวิดีโอการฝึกอบรมของคุณด้วยการสร้างการพากย์เสียง AI หรือ เสียงจากโปรแกรมบันทึกเสียงการใช้การพากย์เสียงเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการแทนเสียงในวิดีโอที่อาจไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชมของคุณ เพียง ลบเสียงวิดีโอของคุณ จากนั้นเพิ่มการพากย์เสียงของคุณลงในไทม์ไลน์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ AI เพื่อช่วยให้คุณ เขียนสคริปต์ได้เร็วขึ้นหรือรับแรงบันดาลใจจากตัวอย่าง วิดีโออธิบายและเคล็ดลับเหล่านี้

เริ่มการตัดต่อวิดีโอการฝึกอบรมวันนี้ด้วย Clipchamp หรือดาวน์โหลด แอป Microsoft Clipchamp สำหรับ Windows ฟรี